ZF Aftermarket ทั่วโลก -

เราคือพันธมิตรของคุณ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน

คุณอยู่ที่นี่
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (English ไทย)

ถ้าหากประเทศของท่านไม่ปรากฏอยู่ในรายการ กรุณาเลือก “ประเทศอื่นๆ” เพื่อเยี่ยมชมเว็บไซต์ ZF Aftermarket Global ของเรา

เว็บไซต์ ZF Aftermarket ทั้งหมด

ค้นหาพื้นที่ของคุณ

คุณกำลังค้นหาข้อมูลบริษัทของ ZF Friedrichshafen AG ใช่หรือไม่?

เยี่ยมชมเว็บไซต์บริษัทของเรา

กรุณาเลือกภูมิภาคและภาษาของคุณ:

กลับ
เอเชีย แปซิฟิก
ยุโรป
ละตินอเมริกา
ตะวันออกกลาง
  • ตะวันออกกลาง
  • English
ทวีปอเมริกาเหนือ
  • ทวีปอเมริกาเหนือ
  • English
แอฟริกาใต้
  • แอฟริกาใต้
  • English
Global: English

Note

The page you are navigating to is not optimized for mobile devices.
Do you want to proceed?

Proceed

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ในรถยนต์นั่งส่วนบุคคลระบบไฮบริด

การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ในรถยนต์นั่งส่วนบุคคลระบบไฮบริด

ข้อควรระวัง: งานทั้งหมดต้องดำเนินการโดยบุคลากรที่ผ่านการฝึกอบรมมาแล้วเท่านั้นแม้จะปิดระบบไฟฟ้าแรงสูงแล้วก็ตาม สำหรับงานที่ไม่ใช่ระบบไฟฟ้าทั้งหมด ขอแนะนำให้ปฏิบัติตามข้อมูล DGUV 200-006! ZF มีบริการออกแบบการฝึกอบรมเกี่ยวกับไฟฟ้าแรงสูงสำหรับศูนย์ซ่อมของท่านโดยเฉพาะ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฝึกอบรมเกี่ยวกับไฟฟ้าแรงสูง โปรดไปที่เว็บไซต์: aftermarket.zf.com/th/training

ข้อควรระวัง: งานทั้งหมดต้องดำเนินการโดยบุคลากรที่ผ่านการฝึกอบรมมาแล้วเท่านั้นแม้จะปิดระบบไฟฟ้าแรงสูงแล้วก็ตาม สำหรับงานที่ไม่ใช่ระบบไฟฟ้าทั้งหมด ขอแนะนำให้ปฏิบัติตามข้อมูล DGUV 200-006! ZF มีบริการออกแบบการฝึกอบรมเกี่ยวกับไฟฟ้าแรงสูงสำหรับศูนย์ซ่อมของท่านโดยเฉพาะ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฝึกอบรมเกี่ยวกับไฟฟ้าแรงสูง โปรดไปที่เว็บไซต์: aftermarket.zf.com/th/training

สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง

โปรดปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตเสมอเมื่อทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ระบบไฮบริด
ขั้นตอนทั้งหมดที่แสดงนี้เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ไม่สามารถใช้เป็นคำแนะนำโดยละเอียดสำหรับรถยนต์ทุกรุ่น

โปรดปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตเสมอเมื่อทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ระบบไฮบริด
ขั้นตอนทั้งหมดที่แสดงนี้เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ไม่สามารถใช้เป็นคำแนะนำโดยละเอียดสำหรับรถยนต์ทุกรุ่น

ขั้นตอนที่ 1

ใช้เทปกั้นเขตกั้นบริเวณรอบๆ รถยนต์เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

ขั้นตอนที่ 1

ใช้เทปกั้นเขตกั้นบริเวณรอบๆ รถยนต์เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

ขั้นตอนที่ 2

เก็บกุญแจรถยนต์ไว้ในที่ปลอดภัยโดยให้อยู่ในระยะห่างที่เพียงพอ (อย่างน้อย 5 ม. สำหรับกุญแจ KeyLessGo)

ขั้นตอนที่ 2

เก็บกุญแจรถยนต์ไว้ในที่ปลอดภัยโดยให้อยู่ในระยะห่างที่เพียงพอ (อย่างน้อย 5 ม. สำหรับกุญแจ KeyLessGo)

ขั้นตอนที่ 3

ติดป้ายหรือสัญลักษณ์แสดงสถานะไฟฟ้าแรงสูงที่เหมาะสม (ระบบไฟฟ้าแรงสูงทำงาน) เข้ากับรถยนต์เพื่อเป็นการแจ้งเตือนสถานะของระบบไฟฟ้าแรงสูง

ขั้นตอนที่ 3

ติดป้ายหรือสัญลักษณ์แสดงสถานะไฟฟ้าแรงสูงที่เหมาะสม (ระบบไฟฟ้าแรงสูงทำงาน) เข้ากับรถยนต์เพื่อเป็นการแจ้งเตือนสถานะของระบบไฟฟ้าแรงสูง

ขั้นตอนที่ 4

ปิดระบบไฟฟ้าแรงสูง ข้อควรระวัง: คำนึงถึงข้อกำหนดของผู้ผลิตและรอจนกว่าระบบปิดโดยสมบูรณ์เสมอ!

ขั้นตอนที่ 4

ปิดระบบไฟฟ้าแรงสูง ข้อควรระวัง: คำนึงถึงข้อกำหนดของผู้ผลิตและรอจนกว่าระบบปิดโดยสมบูรณ์เสมอ!

ขั้นตอนที่ 5

ทำให้รถอยู่ในลักษณะที่ปลอดภัยจากการสตาร์ทเครื่องโดยไม่ตั้งใจ โดยติดตั้งตัวล็อกเข้ากับปลั๊กตัดการเชื่อมต่อวงจร (Service Disconnect plug) และติดสัญลักษณ์ไว้เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเปิดระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต

ขั้นตอนที่ 5

ทำให้รถอยู่ในลักษณะที่ปลอดภัยจากการสตาร์ทเครื่องโดยไม่ตั้งใจ โดยติดตั้งตัวล็อกเข้ากับปลั๊กตัดการเชื่อมต่อวงจร (Service Disconnect plug) และติดสัญลักษณ์ไว้เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเปิดระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต

ขั้นตอนที่ 6

เมื่อปิดการทำงานของระบบไฟฟ้าแรงสูงแล้ว จึงจะสามารถติดแผ่นแสดงสถานะไฟฟ้าแรงสูงสีเขียวเข้ากับรถได้

ขั้นตอนที่ 6

เมื่อปิดการทำงานของระบบไฟฟ้าแรงสูงแล้ว จึงจะสามารถติดแผ่นแสดงสถานะไฟฟ้าแรงสูงสีเขียวเข้ากับรถได้

ขั้นตอนที่ 7

ถอดแท่งเหล็กกันชนท้ายรถออกจากตัวรถเพื่อให้สามารถเข้าถึงส่วนประกอบที่สำคัญได้

ขั้นตอนที่ 7

ถอดแท่งเหล็กกันชนท้ายรถออกจากตัวรถเพื่อให้สามารถเข้าถึงส่วนประกอบที่สำคัญได้

ขั้นตอนที่ 8

ถอดปลั๊กอุดช่องระบายน้ำมันและถ่ายน้ำมันเก่าออก นำตัวอย่างน้ำมันไปตรวจสอบสภาพน้ำมัน

ขั้นตอนที่ 8

ถอดปลั๊กอุดช่องระบายน้ำมันและถ่ายน้ำมันเก่าออก นำตัวอย่างน้ำมันไปตรวจสอบสภาพน้ำมัน

ขั้นตอนที่ 9

ถอดอ่างน้ำมันและตัวกรองออกแล้วตรวจสอบสภาพน้ำมันด้วยสายตา แม่เหล็กในอ่างน้ำมันจะเป็นตัวแสดงปริมาณการสึกหรอซึ่งเกิดจากน้ำมัน

ขั้นตอนที่ 9

ถอดอ่างน้ำมันและตัวกรองออกแล้วตรวจสอบสภาพน้ำมันด้วยสายตา แม่เหล็กในอ่างน้ำมันจะเป็นตัวแสดงปริมาณการสึกหรอซึ่งเกิดจากน้ำมัน

ขั้นตอนที่ 10

ประกอบอ่างน้ำมันเครื่องและตัวกรองชุดใหม่

ขั้นตอนที่ 10

ประกอบอ่างน้ำมันเครื่องและตัวกรองชุดใหม่

ขั้นตอนที่ 11

เติมน้ำมัน LifeguardFluid ของ ZF ที่เหมาะสมลงในปั๊มน้ำมัน

ขั้นตอนที่ 11

เติมน้ำมัน LifeguardFluid ของ ZF ที่เหมาะสมลงในปั๊มน้ำมัน

ขั้นตอนที่ 12

ควบคุมอุณหภูมิน้ำมันเกียร์ด้วยแอป ZF Smart Service จากเมคคาทรอนิกส์

ขั้นตอนที่ 12

ควบคุมอุณหภูมิน้ำมันเกียร์ด้วยแอป ZF Smart Service จากเมคคาทรอนิกส์

ขั้นตอนที่ 13

เติมน้ำมันเกียร์ ZF LifeguardFluid โดยใช้ปั๊มน้ำมันในการช่วยเติม

ขั้นตอนที่ 13

เติมน้ำมันเกียร์ ZF LifeguardFluid โดยใช้ปั๊มน้ำมันในการช่วยเติม

ขั้นตอนที่ 14

วัดอุณหภูมิของน้ำมันเกียร์อีกครั้งเพื่อปรับระดับน้ำมันเกียร์ การปรับระดับน้ำมันจะเป็นไปอย่างถูกต้องเมื่อไม่มีน้ำมันหยดลงมาจากรถยนต์และไม่สามารถเติมน้ำมันเพิ่มได้อีก

ขั้นตอนที่ 14

วัดอุณหภูมิของน้ำมันเกียร์อีกครั้งเพื่อปรับระดับน้ำมันเกียร์ การปรับระดับน้ำมันจะเป็นไปอย่างถูกต้องเมื่อไม่มีน้ำมันหยดลงมาจากรถยนต์และไม่สามารถเติมน้ำมันเพิ่มได้อีก

ขั้นตอนที่ 15

ติดตั้งแท่งเหล็กกันชนท้ายรถ เปิดระบบไฟฟ้าแรงสูง และดำเนินการทดสอบการขับขี่

ขั้นตอนที่ 15

ติดตั้งแท่งเหล็กกันชนท้ายรถ เปิดระบบไฟฟ้าแรงสูง และดำเนินการทดสอบการขับขี่

ข้อมูลเพิ่มเติม
ด้วยการฝึกอบรมด้านไฟฟ้าแรงสูงของเราคุณจะได้เรียนรู้ถึงวิธีการทำงานกับยานยนต์ไฮบริดทั้งหมด ตั้งแต่รถยนต์ ไปจนถึงรถบรรทุก รถบัส และยานพาหนะพิเศษ

ด้วยการฝึกอบรมด้านไฟฟ้าแรงสูงของเราคุณจะได้เรียนรู้ถึงวิธีการทำงานกับยานยนต์ไฮบริดทั้งหมด ตั้งแต่รถยนต์ ไปจนถึงรถบรรทุก รถบัส และยานพาหนะพิเศษ

Find out more
ZF สมาร์ทเซอร์วิส

แอป ZF Smart Service ของเราซึ่งใช้สำหรับตรวจวิเคราะห์รถยนต์สามารถใช้ได้กับอุปกรณ์สื่อสารรูปแบบต่างๆ ช่วยให้งานซ่อมรถเบื้องต้นกลายเป็นเรื่องง่ายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

Learn more